Way of Backpacker Backpacker ท่องเที่ยว เที่ยวเอง เที่ยวไทย เที่ยวเกาหลี เที่ยวญี่ปุ่น รีวิวอุปกรณ์
ตั้งแต่ประเทศไทย ได้รับการยกเว้นไม่ต้องทำ visa เข้าประเทศญี่ปุ่น ในเงื่อนไขคือ พำนักไม่เกิน 15 วัน ก็เลยทำให้คนไทยตื่นตัวไปเที่ยวญี่ปุ่นมากมาย ยิ่งตอนนี้ค่าเงินเยนอ่อนตัวลงมาก ยิ่งกระตุ้นให้การท่องเที่ยวญี่ปุ่นคึกคักมากขึ้น ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะอากาศดี การเดินทางสะดวก และปลอดภัยต่อนักท่องเที่ยวมาก เหล่านี้จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ญี่ปุ่นเป็นประเทศแรก ๆ ที่นึกถึงหากมีโอกาสไปเที่ยวต่างประเทศ ไม่ว่าจะไปโดยซื้อแพคเกตทัวร์ หรือแบคแพคด้วยตัวเอง
จะไปเที่ยวญี่ปุ่นทั้งที เรามาเตรียมตัวกันก่อนเดินทางดีกว่า ไปดูกันครับว่ามีอะไรบ้าง
wi-fi router japan
1. เช่า Wi-Fi router จริงอยู่ที่เดี๋ยวนี้ญี่ปุ่นเปิด free public wifi มากขึ้นตามจุดท่องเที่ยว และสถานีรถไฟ แต่ยังมีข้อจำกัดในสัญญาณ และยังต้องลงทะเบียนใช้ เพื่อรับ user name และ password ซึ่งอาจไม่สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องใช้ internet เพื่อหาข้อมูลหรือเพื่อการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งการเช่า wi-fi router นั้นสะดวกมาก เพราะมีขนาดเล็ก พกพาง่าย และสามารถกระจายสัญญาณให้กับมือถือ หรืออุปกรณ์พกพาอื่น ๆ ได้อีกหลายเครื่อง ค่าใช้จ่ายก็ถูกกว่าใช้บริการ roaming ข้ามประเทศอย่างเทียบกันไม่ได้เลย สัญญาณก็ชัดเจนกว่า เดี๋ยวนี้มีหลายบริษัทผู้ให้บริการในประเทศไทย ซึ่งอำนวยความสะดวกอย่างมาก มีบริการรับเครื่อง คืนเครื่องที่สนามบินเสร็จสรรพ
แล้วการซื้อ Sim card ล่ะ ดีกว่าเช่า wi-fi router มั้ย ??? บอกได้ว่าดีตรงที่เราไม่ต้องพกอุปกรณ์หลายชิ้น และไม่ต้องคืน sim เมื่อกลับถึงประเทศไทย แต่ข้อเสียที่พบคือ sim card นั้นต้องมีการ activate เพื่อเปิดใช้งาน มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก มือถือแต่ละเครื่องก็ตั้งค่าไม่เหมือนกัน บาง version ก็ยังไม่รองรับกับ sim card ที่สำคัญมีการจำกัดความเร็วในการใช้ในแต่ละวันซึ่งน้อยมาก หรือตัว sim card มีระยะวันใช้งานทีไม่ตรงกับที่เราต้องการใช้จริง
Wi-fi router จึงเป็นคำตอบที่ดีสุดสำหรับการใช้งาน internet ขณะท่องเที่ยวในญี่ปุ่นครับ
2. ซื้อ Japan Rail Pass(JR Pass) ไว้ก่อนเดินทาง เพื่อโดยสารรถไฟท่องเที่ยวแบบไม่จำกัดระยะทาง ขึ้นเหนือล่องใต้ทั่วญี่ปุ่นได้สุดคุ้ม ใช้กับพาหนะของบริษัท JR Japan Railway ได้ทั้ง รถไฟเจอาร์ รถโดยสาร หรือเรือเฟอรี่ของเจอาร์ รวมถึงรถไฟฟ้าด่วนพิเศษชินคันเซน (ยกเว้นเพียงรุ่นล่าสุดที่ชื่อขบวน Nozomi ซึ่งแล่นระหว่างโตเกียวถึงฟุกุโอกะ สายโทไคโด และรถไฟใต้ดินตามเมืองต่างๆ)
โดยต้องซื้อ JAPAN RAIL PASS (JR PASS) จากนอกประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ซึ่งจะมีบริษัทตัวแทนในประเทศไทยให้บริการจำหน่าย คูปองมีระยะเวลาและราคากำหนดไว้ มีตั๋วแบบ 7 วัน 14 วัน และ 21 วัน
แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนที่ไปญี่ปุ่นต้องซื้อนะครับ เพราะแผนเดินทางแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน เดี๋ยวนี้มีพาส (Pass) ใหม่ ๆ เกิดขึ้นเยอะ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อกันให้เหมาะกับแผนเดินทาง สามารถไปซื้อกันได้ที่สถานีรถไฟ หรือสนามบินที่ญี่ปุ่นได้ครับ ต้องติดตามข่าวสารกันตลอด
website Hyperdia
3. โหลด application HyperDia ลงมือถือ / tablet ในญี่ปุ่นมีบริการของเว็บ Hyperdia ของบริษัท Hitachi System ที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับคนเดินทางเที่ยวญี่ปุ่น โดยสามารถเช็คตารางเวลาและจัดลำดับการต่อรถไฟให้ได้โดยอัตโนมัติ เพียงแต่ระบุสถานีที่เป็นจุดตั้งต้น และจุดหมายปลายทางที่จะไปเท่านั้น นอกจากนี้ยังรวมถึงเครื่องบิน และรถบัสบางสายที่ไปสนามบินด้วย
เงื่อนไขการใช้งาน application หรือ website นี้คือต้องมีสัญญาณ internet ถึงจะใช้งานได้ และต้องสะกดสถานีต้นทาง ปลายทางให้ถูกต้องเท่านั้นเอง
สำหรับผู้ที่ใช้ iPhone , iPad การโหลด application HyderDia นี้ต้องใช้ apple ID ที่เป็น US นะครับ (ID Thai โหลดไม่ได้) แต่แก้ปัญหาได้โดย เข้าไปที่ www.hyperdia.com แล้ว bookmark ไว้ที่หน้า home screen ก็ใช้งานได้เหมือนกันครับ
